เกาะเกร็ด
เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนท้ายอำเภอสามโคกมาทางใต้ถึงคลองขวางเชียงราก ( ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ในสมัยปัจจุบัน ) ขนาดกว้าง 6 วา ยาว 39 เส้นเศษ ลึก 6 ศอก ตรงบริเวณส่วนของแผ่นดินที่ยื่นเป็นแหลม โดยเรียกคลองที่ขุดขึ้นใหม่นี้ว่า คลองลัดเกร็ดน้อย ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา
ประมาณปี พ.ศ. 2265 เมื่อเวลาผ่านไป กระแสน้ำได้เปลี่ยนทิศทางแรงขึ้น กัดเซาะชายตลิ่งทำให้คลองขยายใหญ่ขึ้น ?สภาพความเป็นเกาะเด่นชัดขึ้น แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะ แต่เดิมในอดีตนั้นเรียกว่า เกาะศาลากุล ซึ่งชื่อนี้ได้ปรากฏอยู่ในโฉนดที่ดินที่ออกในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่5 )
เกาะศาลากุลนี้เรียกตามชื่อวัดศาลากุล สันนิษฐานว่า วัดแห่งนี้ เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ ( กุล ) ซึ่งรับราชการในตำแหน่ง สมุหนายก ในรัชสมัย พระเจ้าตากสินมหาราช จนถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ( รัชกาลที่2 ) เป็นผู้สร้างถวาย
ต่อมาทางราชการได้มีการจัดตั้งอำเภอปากเกร็ดขึ้นมา เกาะศาลากุลจึงได้ยกสถานะเป็นตำบล โดยมีเขตการปกครอง 7 หมู่บ้าน และได้เรียกว่า ตำบลเกาะเกร็ด จวบจนถึงปัจจุบัน
เกาะเกร็ดมีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สังเกตได้ว่าวัดวาอารามต่างๆ บนเกาะส่วนใหญ่ จะเป็นศิลปะในสมัยอยุธยาแต่หลังจากกอบกู้เอกราชได้ พระเจ้าตากสินมหาราช จึงโปรดให้ชาวมอญที่เข้ารีตมาตั้งถิ่นฐานที่นี่? ชาวมอญบนเกาะเกร็ดนั้นมีทั้งที่เข้ามาในสมัยกรุงธนบุรี และสมัยรัชกาลที่2 การคมนาคมบนเกาะจะใช้จักรยาน เพื่อให้เหมาะกับขนาดของเกาะ ชาวบ้านประกอบอาชีพชาวสวนและชาวสวนผลไม้ ผลไม้ที่มีชื่อเสียงของเกาะเกร็ดคือ? ทุเรียน และลิ้นจี่ ซึ่งโด่งดังมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เรียกว่า ลิ้นจี่ศาลากุล เป็นที่โปรดปราณของเจ้านาย และข้าราชบริพารมาช้านาน อาชีพรองของชาวบ้าน คือ การทำน้ำตาลโตนด
การเดินทางมาเที่ยวเกาะเกร็ด
สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง รถตู้ หรือขับรถส่วนตัวมาเอง ซึ่งสามารถนำรถยนต์ฝากไว้ที่บริเวณวัดสนามเหนือ หน้าจุดข้ามเรือไปยังเกาะเกร็ด
การลงเรือข้ามฝากไปยังฝั่งเกาะเกร็ด สามารถขึ้นเรือได้ที่ 2 ท่า คือ ท่าเรือวัดสนามเหนือ ( เสียค่าเรือโดยสาร 2 บาท ) ท่าเรือวัดกลางเกร็ด ( เสียค่าเรือโดยสาร 6 บาท )
เรือข้ามฝาก มีให้บริการตั้งแต่เวลา 5.00 น. จนถึงเวลา 21.30 น.
การเที่ยวบนเกาะเกร็ดนั้น มีสิ่งต่างๆที่ชวนให้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นับตั้งแต่ลงจากเรือข้ามฝาก ซึ่งในที่นี้ จะแนะนำไว้เป็นไกด์เล็กน้อย สำหรับท่านที่จะไปเที่ยวที่เกาะเกร็ด?
• เมื่อลงจากเรือข้ามฝากที่ท่าน้าวัดปรมัยยิกาวาส เข้านมัสการพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ รัชกาลที่ 5
• เดินเท้าจากวัดปรมัยยิกาวาส สู่หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 แวะซื้อเครื่องปั้นดินเผาได้สองข้างทาง ชมพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา
• ลงเรือที่ท่าน้ำหน้าวัดเสาธงทอง ล่องเรือไปทางท้ายเกาะสู่วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ตำบลอ้อมเกร็ด ให้อาหารปลาหน้าวัด ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำนานาชนิด รายได้ถวายวัดฯ มีมะพร้าวน้ำหอมจำหน่าย
• ล่องเรือไปทางใต้เลี้ยวขวาเข้าคลองบางบัวทอง หรือคลองขนมหวาน ชมหมู่บ้านขนมไทยสองฟากฝั่งคลอง และซื้อหาเป็นของฝากติดมือ
• ย้อนกลับออกมาตรงปากคลอง มีปล่องเตาอิฐที่ผลิตอิฐ บ.บ.ท. อิฐทนไฟแห่งแรกของเมืองไทยล่องเรือผ่านบ้านเกร็ดตระการ วิ่งตรงมาขึ้นท่าน้ำหน้าวัดฉิมพลี เลือกซื้อผลผลิตทางการเกษตร และเดินเท้าจากวัดฉิมพลีถึงกลุ่มอาชีพหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา หมู่ที่ 1 ชมการสาธิตการแกะลายเครื่องปั้นดินเผา หมู่ที่ 1 และซื้อเป็นของฝากของขวัญ ล่องเรือข้ามฟากไปวัดกลางเกร็ด เดินทางกลับ
การเหมาเช่าเรือเที่ยวรอบเกาะเกร็ด ราคามีตั้งแต่ 350 -3,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและขนาดของเรือ สามารถติดต่อที่ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาส หรือโทรจองล่วงหน้าที่ โทร. 02-584-5012
หรืออาจใช้บริการเรือนำเที่ยวรอบเกาะ ที่ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาส ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง กับการนั่งเรือเที่ยวรอบๆเกาะ ค่าโดยสาร ท่านละ 40 บา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น